Thailand Taxonomy คืออะไร?
Thailand Taxonomy คืออะไร?
ประเทศไทยกำลังเดินหน้าเข้าสู่ยุค เศรษฐกิจสีเขียว อย่างเป็นระบบ! กับ Thailand Taxonomy ซึ่งเป็นกรอบการจัดประเภทกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุน การเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ และบรรลุเป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2050 (พ.ศ. 2593)
มาตรฐานนี้จะช่วยกำหนดทิศทาง การลงทุนสีเขียว ลดความเสี่ยงจาก Greenwashing และผลักดันธุรกิจไทยให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก
Thailand Taxonomy: เครื่องมือพลิกโฉมเศรษฐกิจไทยสู่ความยั่งยืน 

Thailand Taxonomy เปรียบเสมือน “คู่มือสีเขียว” ที่ช่วยให้ภาคธุรกิจ การเงิน และภาครัฐ แยกแยะว่ากิจกรรมใดเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจริง และกิจกรรมไหนที่ต้องปรับเปลี่ยน โดยใช้ ระบบสัญญาณไฟจราจร เป็นเกณฑ์ในการจัดประเภท:
สีเขียว (Green) → กิจกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น พลังงานแสงอาทิตย์, พลังงานลม, รถยนต์ไฟฟ้า
สีเหลือง (Amber) → กิจกรรมที่สามารถปรับปรุงและพัฒนาให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เช่น พลังงานไฟฟ้าจากชีวมวล
สีแดง (Red) → กิจกรรมที่ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จำเป็นต้องถูกปรับลดหรือยุติ เช่น โรงไฟฟ้าถ่านหินที่ไม่มีแผนลดการปล่อยคาร์บอน
Thailand Taxonomy คืออะไร? ทำไมถึงสำคัญ?
ช่วยนักลงทุนและธนาคาร ตัดสินใจว่า ธุรกิจไหน “สีเขียวจริง” และสมควรได้รับเงินทุนสนับสนุน
ลดความเสี่ยงด้านกฎระเบียบ โดยเฉพาะ CBAM ของยุโรป ที่จะเก็บภาษีคาร์บอนจากสินค้าที่ผลิตแบบไม่ยั่งยืน
ส่งเสริมธุรกิจไทยให้แข่งขันในเวทีโลก รองรับมาตรฐานสากล เช่น ASEAN Taxonomy, EU Green Deal
อุตสาหกรรมบ้างที่ได้รับผลกระทบ
Phase 1 – ครอบคลุม 2 อุตสาหกรรมหลัก:
ภาคพลังงาน
→ โรงไฟฟ้า, พลังงานหมุนเวียน, EV Charging
ภาคขนส่ง
→ ระบบขนส่งมวลชน, โลจิสติกส์ที่ใช้พลังงานสะอาด
Phase 2 – จะครอบคลุมอุตสาหกรรมเพิ่มเติม ได้แก่:
ภาคเกษตร → การปลูกพืชที่ยั่งยืน ไม่ทำลายป่า
ภาคอุตสาหกรรมการผลิต → การลดคาร์บอนในกระบวนการผลิต
ภาคอาคาร → การก่อสร้างอาคารสีเขียว
ภาคจัดการของเสีย → การรีไซเคิล ขยะพลาสติก และเศรษฐกิจหมุนเวียน
Thailand Taxonomy กับอนาคตของเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ
Thailand Taxonomy ไม่ใช่แค่ “อยากทำ” แต่ “ต้องทำ” เพราะทั่วโลกกำลังกำหนดมาตรฐานด้านคาร์บอนที่เข้มข้นขึ้น ธุรกิจที่ไม่ปรับตัวอาจเผชิญมาตรการกีดกันทางการค้าและภาษีคาร์บอน!
นักลงทุนกำลังหันไปสนับสนุน “ธุรกิจสีเขียว” เพราะภาคการเงินและภาครัฐเริ่มให้ความสำคัญกับ ESG (Environmental, Social, Governance)
ธุรกิจต้องเร่งเปลี่ยนผ่าน เพราะอุตสาหกรรมดั้งเดิมที่ปล่อยคาร์บอนสูง หากไม่เร่งลดคาร์บอน อาจเสียโอกาสทางเศรษฐกิจ
สรุปให้ชัด!
Thailand Taxonomy คือเข็มทิศเศรษฐกิจไทยสู่อนาคตที่ยั่งยืน
ภาคการเงินจะใช้ Taxonomy เป็นจุดอ้างอิง ในการปล่อยสินเชื่อและลงทุนธุรกิจ
อุตสาหกรรมที่ปรับตัวเร็ว จะได้เปรียบในการแข่งขัน และเข้าถึงตลาดโลกได้ง่ายขึ้น
ประเทศไทยกำลังเปลี่ยนแปลง และธุรกิจที่ปรับตัวได้เร็วคือผู้ชนะในอนาคต!
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ CBAM, วิธีการคำนวณ หรือการดำเนินการจัดทำ Carbon Footprint
โปรดติดต่อเรา เพื่อรับคำปรึกษาและแนวทางการดำเนินงานที่ถูกต้องตามมาตรฐานสากล
Leave a Reply
Want to join the discussion?Feel free to contribute!